SA ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต.เตรียมออกหุ้นกู้ใหม่ ชูจุดแข็งอายุสั้น 1 ปี 3 เดือนดบ.สูง 6.50% คาดเปิดจอง 25-27 เม.ย.นี้


SA ยื่นไฟลิ่งก.ล.ต.เตรียมออกหุ้นกู้ใหม่

ชูจุดแข็งอายุสั้น 1 ปี 3 เดือนดบ.สูง 6.50% คาดเปิดจอง 25-27 เม.ย.นี้ 

การันตีหุ้นกู้ทุกรุ่นจ่ายดอกเบี้ยครบ-ตรงเวลา 

บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) ยื่นแบบ Filing ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทครั้งที่ 2/2566 อายุ 1 ปี 3 เดือน ชูผลตอบแทน 6.50% ต่อปี จ่ายทุก 3 เดือน คาดจะเปิดจองระหว่างวันที่ 25-27 เม.ย. นี้ ระดมทุนรองรับแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯ และชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนด ฟากบิ๊กบอส “ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ” ระบุหุ้นกู้ทุกรุ่นของบริษัทฯ สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ตรงตามกำหนดเวลาทุกครั้ง และได้ใช้เงินที่ได้มาตรงตามวัตถุประสงค์ สะท้อนประสิทธิภาพในการบริหารสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 66 โต 130% จากปีก่อนแตะ 6,000 ล้านบาท มาจากธุรกิจอสังหาฯ ประมาณ 5,500 ล้านบาท และส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจอื่นๆ รับอานิสงส์การกลับมาของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเสริม ดันผลงานปีนี้เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA)  ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมออกหุ้นกู้ อายุ 1 ปี 3 เดือน อัตราผลตอบแทน 6.50%  ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยคาดว่าจะเปิดจองได้ระหว่างวันที่ 25 – 27 เมษายน 2566 นี้  

สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเงินไปใช้สำหรับ ชำระคืนหุ้นกู้รุ่น SASST235และเพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ โดยเฉพาะโครงการ Landmark @MRTA พระราม 9 ซึ่งเป็นโครงการใหญ่มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาทอยู่ระหว่างก่อสร้างคาดว่าแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2566 พร้อมสำหรับการทยอยโอนมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาทภายในปีนี้ พร้อมกันนี้เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน

ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ SA สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ผู้จัดจำหน่าย 9แห่ง  ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์เอเอสแอล จำกัด บริษัท หลักทรัพย์เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน)

"หุ้นกู้ SA ทุกรุ่นที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถจ่ายอัตราดอกเบี้ยได้ครบถ้วน และตรงตามกำหนดทุกรุ่น ขณะเดียวกันเงินที่ได้รับจากการระดมทุนทุกครั้งได้นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทฯ สามารถบริหารสภาพคล่องทางการเินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพในการรุกขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาโครงการแนวราบและแนวสูงในสัดส่วน 50-50 พร้อมกับมีแผนการขยายฐานรายได้จากธุรกิจอื่นๆ อย่างชัดเจน เพื่อสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว" นายจรศิษฐ์ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้โตไม่น้อยกว่า 130% จากปีก่อน โดยแตะที่ระดับ 6,000 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยคาดการณ์รายได้มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประมาณ 5,500 ล้านบาท สามารถแบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวราบประมาณ 2,000 ล้านบาท และโครงการ Landmark @MRTA พระราม 9 ประมาณ 2,000 ล้านบาท และมาจากโครงการที่เป็น Ready to Move ประมาณ 1,500 ล้านบาท และมาจากรายได้อื่นๆ ประมาณ 500 ล้านบาท  

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอน จำนวน 11 โครงการ มูลค่า 4,201.2ล้านบาท และมีโครงการอยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้าง จำนวน 6 โครงการ มูลค่า 22,081.2 ล้านบาท และมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2568

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดโครงการอสังหาฯ แนวราบใหม่จำนวน 5 โครงการได้แก่ SIAMESE KIN Ramintra , SIAMESE HOLM Phahol – Vibhavadi , SIAMESE BLOSSOM Phahol – Vibhavadi , MONSANE’ Ratchapruek-Chaeng Wattana และอีก 1 โครงการในอนาคต Housing (Phutthamonthon sai4) มูลค่ารวมประมาณ 11,225 ล้านบาท นอกจากนี้มีโครงการ Mixed Use จำนวน 2 โครงการได้แก่ Wellness & Healthcare @Talingchan Plot A และ Condominium @Talingchan Plot B อีกด้วย

ขณะเดียวกันธุรกิจอื่นๆ ประกอบด้วยธุรกิจโรงแรม ธุรกิจให้เช่า ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจด้านสุขภาพ ธุรกิจเทคโนโลยีของการพักอาศัย และธุรกิจการเงินและการลงทุน มีแนวโน้มอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากอานิสงส์การกลับมาของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ 

“เรามุ่งมั่นสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยมีการวางแผนพัฒนาโครงการใหม่ๆ และธุรกิจอื่นๆ อยู่เสมอเพื่อให้ SA เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร จากการสร้างมูลค่าเพิ่มจากสิ่งที่มีอยู่แล้วและต่อยอดธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่เด่นชัด ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่น มั่นคงและยั่งยืนต่อไป” นายขจรศิษฐ์ กล่าวนที่สุด